top of page
Sergei_Rachmaninoff_cph_edited.jpg

Vocalise, Sergei Rachmaninoff

 

   บทเพลงนี้เป็นบทเพลงที่ถูกเขียนให้นักร้องเสียงสูง 

อย่างโซปราโน และเทนเนอร์ เป็นบทเพลงร้องที่ไม่มี

เนื้อร้อง เเต่ใช้วิธีการฮัมแทนการใช้คำร้อง

โดยเพลงนี้ประพันธ์ขึ้นให้กับนักร้องโซปราโนนามว่า Antonina Nezhdanova 

   ใน Recital นี้ได้หยิบเอาเพลงนี้มาเป็น Theme ของตัวละครหลักเพราะตรงกับคาเเรคเตอร์ที่ตัวละครหลักจะเป็นคนที่ซ่อนความเจ็บปวดไว้ในใจคนเดียว 

   ซึ่งในคอนเสิตร์ครั้งนี้ บทเพลงนี้จะถูกบรรเลงอยู่ทุกครั้งเมื่อตัวละครหลักปรากฏตัวแต่จะถูกบรรเลงหลากหลายอารมณ์ ยกตัวอย่างเช่น อารมณ์อ่อนหวาน อารมณ์โกรธ หรืออารมณ์สับสน ซึ่งจะเป็นการบรรเลงสลับกันระหว่าง ดับเบิ้ลเบส และเปียโน

 

Arpeggione Sonata ( Adagio ), Franz Schubert

   บทเพลงนี้เป็นบทเพลงที่Schubert ถูกว่าจ้างให้แต่งขึ้น เมื่อครั้งที่เขาได้ย้ายถิ่นฐานกลับมาอยู่ที่เวียนนาอีกครั้งหนึ่ง โดยผู้ที่จ้างก็คือ Vincenz Schuster 

   บทเพลงนี้ถูกแต่งขึ้นให้กับเครื่องดนตรีที่เรียกว่า

" Arpeggione " ที่มีลักษณะคล้ายกีตาร์ แต่ใช้คันชัก และ Vincenz ก็เป็นคนเล่นด้วย

   ในปัจจุบัน เพลงนี้ถูกเรียบเรียงใหม่ให้กับเครื่องดนตรีอื่นๆมากมาย เช่น ดับเบิ้ลเบส เชลโล่ หรือวิโอล่าเป็นต้น เพราะ Arppeggione กลายเป็นเครื่องดนตรีที่ไม่มีใครเล่นเเล้วหรือถึงยังมีอยู่ก็หาได้ยากเต็มที

   บทเพลงนี้แทบจะเป็นเพลงที่ฟังสบาย ไม่เร็ว ไม่ช้า มีท่วงทำนองที่เเสนหวาน จึงนำมาใช้แทนโลกที่สดใสให้ของตัวละคร ให้ผู้ชมทุกท่านได้เพลิดเพลิน 

A-1458123-1536585955-7863.jpeg.jpg

Sonata for Double Bass and Klavier, Henry Eccles

 

    จริงๆแล้วบทเพลงนี้ถูกแต่งมาเพื่อ ไวโอลิน โดย

นักประพันธ์เพลงชาวอังกฤษ Henry Eccles 

    " The Eccles Sonata " ถูกนำมาเล่นโดยดับเบิ้ลเบสมามากกว่า 90 ปี เริ่มด้วยการที่ Serge Koussevitsky ได้ทำการอัดเสียงท่อนแรก ในปี 1928 และ 1929

     ในส่วนของโน๊ตถูกเรียบเรียงแก้ไขโดย

Frederick Zimmermann และถูกตีพิมพ์จัดจำหน่าย

ในปี 1951 ต่อมาก็กลายเป็นrepertoireสำคัญชิ้นหนึ่งของ Double Bass

    สำหรับเพลงนี้ แต่ละท่อนมีทำนอง และจังหวะที่แตกต่างกันไป เร็ว ช้า เร็ว ท่อนแรก Largo จะมีทำนองที่ช้าและเศร้า เนื้อเรื่องในช่วงท่อนLargoก็จะเเทนความเศร้าภายในใจของตัวละครหลัก ที่ไม่มีใครได้รับรู้เลยแม้เเต่คนเดียว

      ท่อนAllegro จะมีจังหวะที่เร็ว เมโลดี้ที่มีขึ้น สูง ต่ำ และใช้เทคนิคเล่นข้ามสายของดับเบิ้ลเบส สร้างความสับสนงุนงงให้ผู้เล่น เพราะเมโลดี้ในท่อนนี้ต้องมีกลิ่นอายความสับสนแบบนี้อยู่เเล้วตามที่ผู้ประพันธ์ต้องการ จึงนำมาแทนความสับสนที่เริ่มก่อตัวขึ้นภายในใจของตัวละครหลัก

       ท่อนAdagio มีทำนองที่หวานปนเศร้า แทนการเริ่มเปิดใจรับใครเข้ามา โดยไม่ทันคิดว่าสุดท้ายเเล้ว ทุกอย่าง อาจจะไม่ได้จบแบบสวยงามตามที่ใจเราต้องการ

       ท่อนVivace เป็นท่อนที่จังหวะเร็วที่สุดใน และมีการเล่นโน๊ตซ้ำๆกัน ในหลายๆจุด กลายเป็น motif ของเพลง ท่อนนี้ก็มาแทนช่วงเวลาที่ตัวละครหลักเริ่มมีการทะเลาะเบาะเเว้ง ย้ำคิดย้ำทำ อยู่แต่กับสิ่งที่ตัวเองจินตนาการหรือคิดไปเอง

จนทำให้ต้องเสียคนรอบข้างไปเรื่อยๆทีละคน

Chanson Triste, Serge Koussevitzky                                                   

  คีตกวี และนักดับเบิ้ลเบส ชาวรัสเซีย ได้ประพันธ์เพลงนี้ขึ้นมาประวัติของเพลงไม่ได้มีการเปิดเผยว่าได้ประพันธ์ออกมาในช่วงไหน

   บทเพลงนี้ได้ออกแสดงครั้งเเรก เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ในงาน Rockport Music Festival โดยวง Boston Symphony Orchestra และบรรเลงเดี่ยวดับเบิ้ลเบสโดย Edwin Barker 

   สำหรับบทเพลงนี้ เป็นบทเพลงที่มีทั้งท่อนที่เศร้า และท่อนที่พอฟังเเล้วทำให้เกิดอารมณ์ความสับสน มีเมโลดี้ที่โหยหวน และด้วยโน๊ตของแอคคอมเปียโนที่ฟังดูหมองมาก เลยทำให้เพลงนี้ถูกนำมาแทนความรู้สึกดำดิ่ง จมสู่ความมืดมิดในจิตใจ

Franz-Schubert.jpg
unnamed.jpg
bottom of page