top of page
unnamed_edited_edited.jpg

Concerto for Double Bass Op.3 
Serge Koussevitzky

     คีตกวีชาวรัสเซีย ที่เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะวาทยกร และ
นักดับเบิ้ลเบสที่มีชื่อเสียงในสหรัฐอเมริกา และในยุโรป
     หลักฐานการประพันธ์เพลงนี้ไม่ได้ปรากฏหลักฐานที่ชัดเจน แต่ได้มีการถกเถียงเกี่ยวกับฝีมือการประพันธ์เพลงและเรียบเรียงผลงานเพลงที่เก่งหาที่เปรียบของเขาว่างานต่างๆที่เขาได้ทำขึ้นมาเกิดจากฝีมือของเขาคนเดียวจริงๆหรือไม่
     เรื่องนี้ทำให้ภรรยาม่ายของเขา Olga Koussevitzky ออกมายืนกรานว่าสามีของหล่อนแต่งเพลงทุกเพลงเองโดยไม่มีใครยื่นมือมาช่วยจริงๆ 

     Philip Hale (American Impressionist Artist) ได้กล่าวไว้ว่าผลงาน Concerto ของ Koussevitzky ไม่ได้เป็นการเขียนที่ไร้สาระเลยสักนิดแต่เป็นการคิดเเละเขียนอย่างรอบคอบแม้เเต่การลงรายละเอียดเล็กน้อยก็ผ่านการกลั่นกรองมาอย่างรอบคอบเเละละเอียดก่อนจะเขียนบันทึกลงไปในแผ่นกระดาษเพลงของเขาเข้ากับยุคสมัยและมีความเป็นสากล  

     บทเพลงนี้มีด้วยกันทั้งหมด 3 ท่อน Allegro, Andante, Allegro ซึ่งเพลงนี้สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ที่ได้ฟังครั้งแรกเป็นอย่างมาก โดย ท่อน1 และท่อน3 มีทำนองที่เหมือนกันในตอนต้นและต่างกันในช่วงกลางเพลง แต่ละท่อนของบทเพลงจะถูกแทนด้วยสีที่แตกต่างกันไปตามบริบท และตามลักษณะพิเศษของแต่ละท่อน

  ท่อน Allegro จะมีทำนองที่ดุดันและแข็งกร้าวกว่าท่อนอื่นๆ บรรยากาศเวลาที่ได้บรรเลงเพลงนี้ จะเห็นรอบข้างเป็นสีแดงหรือดำสลับกันไปทุกที

     ท่อม Andante มีท่วงทำนองที่อ่อนหวาน ถึงแม้ว่าบางเมโลดี้จะถูกหยิบมาจากท่อนแรกก็ตาม แต่ด้วยความที่ท่อนนี้จะช้ากว่ามาก ทำให้ถึงแม้จะเป็นโน๊ตที่เหมือนกัน แต่ฉันมักมองเห็นบรรยากาศรอบตัวเป็น สีชมพู สลับสีขาว อยู่เสมอ

     ท่อนสุดท้าย Allegro ถึงจะชื่อท่อน และความเร็วเท่ากับท่อนแรก แต่ท่อนสุดท้ายนี้ ยังมีอ่อนโยน แต่สุขุม เยือกเย็นมากกว่าท่อนแรก ซึ่งจะอยู่ในช่วงระหว่างกลางท่อน ที่เมโลดี้จะถูกเปลี่ยนไปให้ต่างกับท่อนแรกบรรยากาศรอบตัวของฉันเวลาบรรเลงจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน ที่ดูสุขุม นุ่มลึก  

356x237.jpg

Oblivion, Astro Piazzolla (transcribe For Double Bass & Guitar) 

     คีตกวีชาวอาเจนตินา ผู้บุกเบิกดนตรีแทงโก้ ให้กลายเป็นดนตรีแนวแทงโก้สมัยใหม่ (Nuevo Tango) โดยการผสมผสานใส่กลิ่นไอของดนตรีแจ๊ซ และคลาสสิกลงไปในดนตรีแนวแทงโก้พื้นบ้านจนถูกขนานนามว่าบิดาแห่งดนตรีแทงโก้
นอกจากนั้นเขายังเป็นักเล่น ฺBandoneons หรือที่เรารู้จักกันว่าหีบเพลง ที่มีฝีมือมากๆอีกด้วย 

     บทเพลง Oblivion ประพันธืขึ้นในปี 1982 และถูกนำไปประกอบภาพยนต์เรื่อง Enrico IV กำกับโดย Marco Bellocchio เพลงนี้ถูกตีความว่าเป็นเพลงที่สร้างบรรยากาศที่วังเวง และหลอนมากอีกทั้งบทเพลงนี้ยังกลายเป็นบทเพลงที่ได้รับความนิยมที่สุดในบรรดาทุกๆผลงานของ Piazzolla 

     Oblivion ถูกนำไปทำเป็นหลายเวอร์ชั่น เช่น แซกโซโฟน ควอเตท, เดี่ยวโอโบกับวงออเครสตา เป็นต้น เครื่องเดี่ยวจะซอกแทรกเข้ามาในช่วงเมโลดี้ที่อ่อนโยนแต่เศร้าสุดขีด ก่อนที่ช่วงกลางของบทเพลงจะแปรเปลี่ยนเป็นท่วงทำนองที่เข้มข้นและดุดันมากขึ้น แม้ว่าบทเพลงจะบรรยายถึงความรักแต่ก็เป็นความรักที่ซับซ้อนกล้ำกลืน และเจ็บปวด

     ถ้าเปรียบกับความรู้สึก คงเป็นความรู้สึกที่ทั้งสุข และทุกข์ในเวลาเดียวกัน เหมือนสีเทา ที่เกิดจากสีขาวแทนความบริสุทธิ์ สดใส และสีดำแทนมืดมน เป็นความรู้สึกที่ขัดแย้งกันเอง ยากที่จะเข้าใจ ทำให้เกิดความคิดที่ไม่ลงรอยกันเองอยู่เสมอ

albinoni.jpg

Adagio in G Minor, Tomaso Albinoni

     คีตกวีชาวอิตาลีในยุคบาโรค ในช่วงยุคสมัยของเขาชื่อเสียงของเขามาจากผลงานโอเปร่าเป็นส่วนใหญ่ แต่หลังจากที่เขาเสียชีวิต ผลงาน Instrumental Music (เพลงบรรเลง) โดยเฉพาะเพลง Concerto และบทเพลง Adagio in G Minor 

   แต่ในขณะเดียวยังมีนักดนตรีและนักเขียนชีวประวัติของ Albinoni ในศตวรรษที่ 20 ชื่อ Remo Giazottoได้อ้างว่าเขาคือผู้เขียนเพลงนี้ขึ้นมาโดยอ้างอิงจากชิ้นส่วนต้นฉบับที่ถูกพบ 
มีการถกเถียงทางวิชาการอย่างต่อเนื่องว่าชิ้นส่วนที่ถูกกล่าวหานั้นเป็นของจริงหรือเป็นเรื่องหลอกลวงกันแน่

     สำหรับบทเพลงนี้ มีท่วงทำนองที่เศร้า โหยหวน อีกทั้งยังฟังดูลึกลับ เหมือนกับสีน้ำเงิน ที่ดูลึกลับ ชวนหลงใหล แต่ก็ยังมีความเศร้าและน่ากลัวในเวลาเดียวกันบทเพลงนี้จะทุกเชื่อมไปกับสีน้ำเงิน และรูปวาดที่จะบรรยายแทนความความรู้สึกเศร้า 

rossini_vig_hp.jpg

Duetto in D Major ( Mov I ), Gioachino Antonio Rossini

   คีตกวีชาวอิตาลีที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากผลงานอุปรากรทั้ง 39เรื่องแต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังมีผลงานด้านChamber Music, Piano Pieces, และ Sacred Music  อีกมากมาย ที่สำคัญเขายังเป็นผู้พัฒนารากฐานทั้ง Comics, Serious Opera ให้มีมาตรฐานที่ดีขึ้นก่อนที่จะเกษียณตัวเองไปในวัยเพียง 37ปีแต่เขาก็มีชีวิตที่ดีและมีชื่อเสียงตลอดจนชั่วชีวิตของเขา

  Duetto ถูกบรรเลงครั้งเเรกในปี 1824 โดย นักเชลโล่สมัครเล่นนามว่า Sir David Solomons และ นักดับเบิ้ลเบสมืออาชีพนามว่า Domenico Dragonetti ผลงาน Duet ของ Rossini ชิ้นนี้ ยังถูกขนาดนามว่าเป็นผลงานที่ประหลาดที่สุดสำหรับ Chamber Music ของ Rossini 

    โดยในการแสดงในครั้งนี้ได้เอามาบรรเลงเพียงท่อน1เท่านั้น เพื่อแทนความรู้สึกสนุกสนาน และมีชีวิตชีวาของโลกใบนี้

          

 

            

7O9A1613_edited.jpg

คิดถึง, Pongsit Kampee

      พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ ตำนานเพลงเพื่อชีวิตรุ่นที่ 3 ได้เข้าสู่วงการดนตรีตั้งเเต่ปีพ.ศ.2530 จนถึงปัจจุบันได้รับรางวัลการันตีมากมาย เช่น 

  • คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 15 รางวัล "ศิลปินชายเดี่ยวยอดเยี่ยม" ประจำปี พ.ศ. 2561

  • สีสันอะวอร์ดส์ ศิลปินเดี่ยวยอดเยี่ยม จากอัลบั้ม "แกกับฉัน" ครั้งที่ 30 ประจำปี 2561 เป็นต้น

     พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นในปี พ.ศ. 2533 จากเพลง ตลอดเวลา ในอัลบั้มเสือตัวที่ 11 ซึ่งออกกับค่ายรถไฟดนตรีพร้อมทั้งได้ทำเพลงประกอบละคร ตะวันชิงพลบ ซึ่งได้มีโอกาสที่จะนำเพลงดังกล่าวไปบรรจุรวมอยู่ในอัลบั้มบันทึกการเดินทางด้วย และเป็นอัลบั้มที่แฟนเพลงรู้จักมากขึ้นหลังออกวางจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียนของหนู, เธอผู้เสียสละ, ไทรโศก, แม่ เป็นต้น

     บทเพลง คิดถึง กล่าวถึง ความรักที่ไม่สมหวัง ความรักที่ยอมแม้กระทั่งให้คนที่เรารักเดินจากไป ส่วนตัวเราทำได้เเค่คิดถึง

      สำหรับบทเพลงนี้เวลาที่ได้ยิน บรรยากาศโดยรอบตัวเราจะดูเป็นสีแดงส้ม แบบพระอาทิตย์ตกดิน ที่ให้บรรยากาศที่ชวนเหงาๆ แต่ก็ยังคงความร้อนแรงอยู่

56108.jpg

Again, Beverly​ Caimen

      นักร้องชาวฟิลิปปินส์ ภายใต้สังกัด Avex Trax ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับเธอคือ การได้ร้องเพลงเปิดให้กับการ์ตูนต่อสู้ในตำนานอย่าง Kamen Rider Build ก่อนจะปล่อยอัลบั้มเดี่ยวของเธอออกมาชื่อว่า 24 

​     หลังจากที่ออกอัลบั้มเดี่ยวเเล้ว เธอยังได้อวดฝีไม้ลายมือในการร้องเพลงประกอบเอนิเมะอีกมากมาย เช่น Fairy Tales, Fruits Baskets เป็นต้น

     Again เป็นบทเพลงประกอบเอนิเมะเรื่อง Fruits Baskets ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับคำสาป 12 นักษัตร และการต้องตามแก้คำสาปของคู่พระนาง และผองเพื่อน บทเพลงนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับ การคิดถึงคนรักที่จาก และความหวังว่าสักวันเขากลับมาข้างๆเราอีกครั้ง

     สำหรับบทเพลงนี้เวลาที่เราได้ยินหรือได้ฟัง รอบตัวของเราเหมือนจะกลายเป็นสีม่วงอยู่ทุกครั้งไป เพราะความคิดถึงในเพลงนี้มันทั้งโหยหา และเกือบจะสิ้นหวัง แต่มันก็ยังมีความสุขที่ได้เห็นคนที่รักมีความสุขเหมือนกัน คล้ายกับทุกอย่างมันผสมปนกันไปหมด

     

bottom of page